BACK

ธุรกิจงานออกแบบตกแต่งโตกระฉูด

‘จาร์เค็น’ โหมรุกตลาดเพื่อนบ้าน รองรับการเปิดประชาคมอาเซียน นายกุลเดช สินธวณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จาร์เค็น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจออกแบบตกแต่ง เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจ ออกแบบตกแต่ง ว่าหลังผ่านเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาปรากฎว่าธุรกิจออกแบบตกแต่งมีอัตราการเติบโตโดยรวมอย่างต่อเนื่องประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาทต่อปี เพราะลูกค้าเริ่มให้ความสำคัญกับงานดีไซน์มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ธุรกิจดังกล่าวถือเป็นอาชีพที่อิสระ จึงไม่มีการแบ่งแยกประเภทที่ชัดเจน และในส่วนของบริษัทก็มีอัตราการเติบโตประมาณ 10-15% ต่อปี

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 2556 ได้รุกธุรกิจรับออกแบบตกแต่งให้ลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น จากเดิมที่เคยมีประสบการณ์การออกแบบให้ลูกค้าในกลุ่มประเทศยุโรปมาแล้ว เพื่อรองรับการเปิดตัวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 จากปัจจุบันที่มีลูกค้าต่างประเทศในกลุ่มนี้ 3 ราย คือ จากพม่า ลาว และเวียดนาม ซึ่งล้วนเป็นนักธุรกิจของประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะพม่า เป็นนักธุรกิจหยก ได้ให้บริษัทเข้าไปออกแบบตกแต่งที่อยู่อาศัยทั้งภายนอกและภายใน มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท

โดยที่อยู่อาศัยหรืออาคารสำนักงานที่จาร์เค็นออกแบบ จะใช้ระยะเวลาในการออกแบบประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับพื้นที่ใช้สอยของตัวอาคารหรือที่อยู่อาศัย นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ในระหว่างการศึกษาพฤติกรรมชาวต่างชาติในด้านความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งสัดส่วนการดำเนินงานบริษัท จะเป็นงานออกแบบตกแต่งในประเทศ 90% และงานต่างประเทศ 10%

ในขณะเดียวกันหากเป็นงานออกแบบโดยบริษัท ออกแบบ พาย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของจาร์เค็น ที่ตั้งขึ้นมาเมื่อต้นปี 2556 ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงบน โดยที่อยู่อาศัยหรืออาคารสำนักงานที่ ออกแบบโดยบริษัทดังกล่าวจะใช้ระยะเวลาในการออกแบบเพียง 1-3 เดือนเท่านั้น แล้วแต่ขนาดพื้นที่ ลูกค้าจะมีทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ

นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมทุนกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายย่อย 3 ราย ในการเข้าไปบริหารโครงการที่อยู่อาศัยจำนวน 3 โครงการ คือ โครงการบ้านเดี่ยวในย่านแจ้งวัฒนะ ราคาเริ่มต้นประมาณ 40-50 ล้านบาทต่อยูนิต, อาคารพาณิชย์ ย่านดอนเมือง ราคาเริ่มต้นประมาณ 10 ล้านบาทขึ้นไป และบ้านเดี่ยว ที่อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ราคาเริ่มที่ประมาณ 2-3 ล้านบาท โดยขณะนี้บริษัทอยู่ในระหว่างการออกแบบโครงการ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้

“ในอนาคตบริษัทจะร่วมทุนกับผู้ประกอบการรายอื่นอีกหรือไม่ คงขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส เพราะปัจจุบันผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป โดยรายได้ปัจจุบันของบริษัทจะมาจากการออกแบบตกแต่ง ในสัดส่วน 90% และเป็นที่ปรึกษาโครงการสัดส่วน 10%”นายกุลเดช กล่าว

หนังสือพิมพ์แนวหน้า